อำนาจเหนือดวงจิต จะนำพาเธอสู่อดีต บุพเพสันนิวาส รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อ การะเกด(เบลล่า ราณี) สาวสวยแต่จิตใจร้ายกาจ สั่งให้ ผิน(หยา จรรยา) กับแย้ม(นุ่น รมิดา) สองบ่าวผู้ซื่อสัตย์ไปล่มเรือของ แม่หญิงจันทร์วาด(ปราง กัญญ์ณรัณ) เหตุเพราะไม่พอใจที่เห็นจันทร์วาดชม้ายชายตาให้ พ่อเดชหรือหมื่นสุนทรเทวา(โป๊ป ธนวรรธน์) คู่หมั้นคู่หมายของตัวเอง แล้วแผนร้ายครั้งนี้ก็ทำให้บ่าวของแม่หญิงจันทร์วาดจมน้ำตายไปหนึ่งคน แต่แม่หญิงจันทร์วาดรอดชีวิต เรื่องนี้ร้อนถึงพ่อเดช เขามั่นใจว่างานนี้เป็นฝีมือของแม่หญิงใจคดขี้อิจฉาอย่างการะเกด ส่วนเรื่องหมั้นหมายนั้นเป็นเพียงความต้องการของผู้ใหญ่ พ่อเดชจึงหาทางพิสูจน์ด้วยการร่าย “มนต์กฤษณะกาลี” มนต์ศักดิ์สิทธิ์โบราณ ที่สาปแช่งผ
เกศสุรางค์(เบลล่า ราณี)พยายามทำใจยอมรับชะตากรรมที่หลงมาอยู่ในยุคกรุงศรีอยุธยา และคิดว่าหากตัวเองทำความดี ลบล้างบาปให้แม่การะเกดได้ ก็จะทำให้ตัวเองได้กลับบ้าน แต่ชีวิตความเป็นอยู่ในอยุธยามั้นแตกต่างกับยุคปัจจุบัน ทำให้เกศสุรางค์ต้องปรับตัวหลายอย่าง แม้กระทั่งเรื่องภาษา แม้เป็นภาษาไทย แต่ก็พูดไม่เหมือนกัน มีสิ่งเดียวที่ทำให้เกศสุรางค์มีความสุขมากคือการได้เห็นกรุงศรีอยุธยาและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้นด้วยตาของเธอเอง
หลังจาก เกศสุรางค์ในร่างการะเกด(เบลล่า-ราณี) เริ่มคุ้นชินแล้วก็พบว่า หมื่นสุนทรเทวา(โป๊ป-ธนวรรธน์) ก็เนื้อหอมไม่ใช่ย่อย คนหนึ่งคือ แม่หญิงจันทร์วาด(ปราง-กัญญ์ณรัณ) ที่เกศสุรางค์ยกให้เป็น “กิ๊ก” ของคุณพี่หมื่นเนื่องจากแม่หญิงจันทร์วาดรู้ว่าหมื่นสุนทรเทวานั้นเป็นคู่หมายของการะเกด แต่ยังมีทีท่าทอดสะพานอยู่เนืองๆ และตัวคุณพี่หมื่นก็เหมือนมีไมตรีตอบในบางครั้งบางคราวด้วย เป็นเหตุให้เกศสุรางค์พูดจาล้อเลียนอยู่เสมอ หมื่นสุนทรเทวาขุ่นเคืองใจทุกครั้งเพราะเขาไม่มีใจชอบแม่หญิงจันทร์วาด ทำให้จันทร์วาดไม่ชอบการะเกดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะสังเกตเห็นว่าหมื่นสุนทรเทวามีสายตาผิดปกติเมื่อมองการะเกด จันทร์วาดจึงเข้ากันได้ดีกับคุณหญิงจำปา เพราะคุณหญิงจำปาเกลียดชังแม่การะเกดเหลือเกิน อยากได้จันทร์วา
เกศสุรางค์(เบลล่า ราณี)เข้าไปก็เจอกับหมื่นเรือง(ปั้นจั่น ปรมะ) คิดว่าเป็นเพื่อนตัวเองก็เข้าไปทักทายอย่างสนิทสนม คิดว่าหมื่นเรืองคือเรืองฤทธิ์ที่ตายตอนเกิดอุบัติเหตุเหมือนตน หมื่นเรืองเห็นเกศสุรางค์เป็นสาวสวยก็คุยด้วย เกศสุรางค์ที่เห็นหมื่นเดชจำเธอไม่ได้ก็รู้ว่าเขาไม่ใช่เรืองฤทธิ์ หมื่นสุนทรเทวา(โป๊ป ธนวรรธน์)เห็นเกศสุรางค์เข้ามาในที่ฟันดาบของพวกผู้ชายก็หน้าบึ้ง แถมเธอยังมาคุยกับผู้ชายอีก หมื่นเรืองจึงรู้ว่านี่คือการะเกด คู่หมายของหมื่นสุนทรเทวา แปลกใจที่หมื่นสุนทรเทวาไม่ชอบการะเกดทั้งเธอสวยขนาดนี้ หมื่นสุนทรเทวาเริ่มหึงหวงแม่หญิงการะเกดกับหมืนเรือง พระอาจารย์ของหมื่นสุนทรเทวาเห็นเกศสุรางค์สามารถผ่านม่านคาถาเข้ามาได้ก็รู้เธอไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งสองคนถอดจิตคุยกันทำให้หมื่นสุน
เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า ราณี)ตื่นเต้นที่ได้พบบุคคลที่เธอรู้จักในประวัติศาสตร์อีกคน คือโกษาปาน (เก่ง ชาติชาย)ที่มาพร้อมกับโกษาเหล็ก (หนู สุรศักดิ์)และแม่หญิงจันทร์วาด (ปราง กัญญ์ณรัณ) ได้มาร่วมสนทนาและต่อบทโคลงกลอนกันที่เรือนของออกญาโหราธิบดี (หนิง นิรุตติ์) เธอรู้ชะตากรรมของเขาเหล่านั้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้จะพยายามส่งสัญญาณเตือนด้วยความหวังว่าอาจจะช่วยไม่ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น แต่เธอก็ต้องตระหนักว่า กงล้อประวัติศาสตร์ไม่สามารถหมุนกลับได้หนำซ้ำหมื่นสุนทรเทวาไม่เชื่อ ยิ่งกล่าวหาว่าเกศสุรางค์เป็นหญิงวิปลาส ทำให้เกศสุรางค์น้อยใจ จึงขอลงจากเรือนเมื่อเกศสุรางค์เห็นมะม่วงเลยนึกทำมะม่วงน้ำปลาหวานให้แขกมาเยือนบ้าน และบ่าวไพร่ในเรือนได้ลองกินกัน ทุกคนต่างพากันติดอกติดใจ เพราะเป็นสิ่
หมื่นสุนทรเทวา(โป๊ป ธนวรรธน์)ได้รับอวยยศเป็น ขุนศรีวิสารวาจา ในขณะเดียวกัน หมื่นเรื่องราชภักดี (ปั้นจั่น ปรมะ) ได้รับอวยยศเป็น ขุนหลวงอภัยภักดี และในวันนั้นเอง ออกพระวิสุทร (เก่ง ชาติชาย) ได้เข้ามาเจรจากับขุนศรีวิสารวาจาและขุนหลวงอภัยภักดี ถึงเรื่องที่ ออกหลวงสุรสาคร (หลุยส์ สก๊อตต์) คิดการร้ายที่อาจส่งผลกระทบต่อ พระยาโกษาเหล็ก (หนู สุรศักดิ์) ส่วนหลวงสุรสาครก็เดินหน้าเข้าหา แม่มะลิ (ซูซี่ สุษิรา) หลังจากที่หลวงสุรสาครได้ตกหลุมรักและต้องการจะแต่งงานกับมะลิ แต่แม่มะลิยืนกรานกับฟานิกผู้เป็นพ่อว่านางจะไม่มีวันแต่งงานกับหลวงสุรสาคร ถึงขั้นเอ่ยว่าเหตุผลคือนางเกลียดหลวงสุรสาคร ทำให้ฟานิกผู้เป็นพ่อเป็นกังวลใจถึงเหตุการณ์ที่จะตามมา
เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า ราณี) พูดกับ ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป ธนวรรธน์) ถึง แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง กัญญ์ณรัณ) และ แม่มะลิ (ซูซี่ สุษิรา) ที่มีใจให้ขุนศรีวิสารวาจา แต่ขุนศรีวิสารวาจากลับพูดเป็นนัยว่า ให้การะเกดกลับไปส่องคันฉ่อง (กระจก) ดู นั้นคือคนที่ตัวเองพอใจ ทำให้เกศสุรางค์ถึงกับหวั่นไหวในใจด้าน คุณหญิงจำปา (เหมียว ชไมพร) ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของขุนศรีวิสารวาจา แต่ถึงกระนั้นคุณหญิงจำปาก็ยอมรับในการตัดสินใจของขุนศรีวิสารวาจา จึงยอมสอนงานบ้านงานเรือนให้กับการะเกด ทำให้คุณหญิงจำปาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการะเกดจนมองเป็นเอ็นดู
ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป ธนวรรธน์) ได้พา เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า ราณี) และบ่าวไพร่ไปงานแข่งเรือประเพณีโบราณพร้อมกับ แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง กัญญ์ณรัณ) ซึ่งมีเรือของเหล่าขุนนาง นำโดย ขุนเรืองอภัยภักดี (ปั้นจั่น ปรมะ), หลวงสรศักดิ์ (ก๊อต จิรายุ) และ หลวงศรียศ (เอิร์ท วิศววิท) เข้าร่วมแข่งขันกับพวกชาวบ้านในครั้งนี้ เกศสุรางค์จึงเต้นและร้องเพลงเชียร์เรือเหล่าขุนนางพร้อมทั้งสั่งให้บ่าวไพร่ร้องเพลงเชียร์ด้วย ปรากฎเรือขุนนางเป็นฝ่ายชนะ
หลังจากเกิดโรคไข้มาลาเรียระบาดไปทั่วทำให้มีบ่าวในเรือนเสียชีวิต เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลลา ราณี) เลยหาวิธีแก้ไข โดยเกศสุรางค์นำเงินส่วนตัวมาซื้อมุ้งเพื่อแจกจ่ายให้กับบ่าวในเรือน จนมีบ่าวไพร่มากมายมาอ้อนวอนขอร้องเพื่อขายตัวเป็นทาสกับ ท่านออกญาโหราธิบดี (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) จนออกญาโหราธิบดีถามถึงสาเหตุบ่าวไพร่ทั้งหลายตอบเสียงระงมว่าอยากได้มุ้ง คุณหญิงจำปา (เหมียว ชไมพร) ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาติการะเกดที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย แต่ก็ไม่พ้นท่านออกญาโหราธิบดี และขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป ธนวรรธน์) ช่วยแก้ต่างให้
ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป ธนวรรธน์) ขุนเรืองราชภักดี (ปั้นจั่น ปรมะ) และ หลวงสรศักดิ์ (ก๊อต จิรายุ) แอบลักลอบเข้าเผาโกดังคลังสินค้าของอังกฤษ แต่ถูกทหารอังกฤษจับได้ จึงเกิดการต่อสู้ กว่าทั้งสามจะหนีออกมาได้ก็รีบแยกย้ายกันกลับเรือน เมื่อขุนศรีวิสารวาจากลับมาก็เจอ เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า ราณี) ที่รอด้วยความเป็นห่วง เมื่อเกศสุรางค์ถามไถ่ขุนศรีวิสารวาจากลับได้กลิ่นควันไฟจากตัวของขุนศรีวิสารวาจา ทำให้เกศสุรางค์รู้ว่าขุนศรีวิสารวาจาไปทำอะไรมา และการเผาโกดังคลังสินค้าในครั้งนี้ ทำให้ คอนสแตนติน ฟอลคอน (หลุยส์ สก็อตต์) เบอร์นาบีและไวท์ ถูกผู้แทนบริษัทอังกฤษสอบสวน แต่คอนสแตนติน ฟอลคอนยังยืนกรานว่าไม่มีส่วนรู้เห็น ผู้แทนอังกฤษจึงให้คอนสแตนติน ฟอลคอนไปกล่าวทูลต่อขุนหลวงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แ
ขุนเรืองอภัยภักดี (ปั้นจั่น ปรมะ) คอยไปหา แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง กัญญ์ณรัน) ที่บ้านตลอด แต่ คุณหญิงนิ่ม (แพร รัชนี) กลับไม่ชอบ ทำให้ขุนเรืองอภัยภักดีต้องคอยมาปรึกษา เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า ราณี) จนทำให้ ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป ธนวรรธน์) ออกอาการหึงหวงจนออกนอกหน้า คุณหญิงจำปา (เหมียว ชไมพร) เริ่มรู้สึกได้ว่าขุนศรีวิสารวาจามีใจให้การะเกดจึงเริ่มสอนงานบ้านงานเรือนให้กับการะเกด รวมไปถึงการทำอาหารจานโปรดของขุนศรีวิสารวาจา นั้นก็คือ “หมูโสร่ง” วิญญาณของการะเกดได้กลับมาหาเกศสุรางค์ด้วยคุณงามความดีที่เกศสุรางค์ทำให้ และทุกคนเริ่มยอมรับความดีของการะเกด
ขุนศรีวิสารวาจา(โป๊ป ธนวรรธน์)ได้พาเกศสุรางค์(เบลล่า ราณี)ไปเที่ยวเมืองละโว้ได้เห็นพระปรางค์สามยอด และวัดเมืองละโว้ในประวัติศาสตร์มากมายทำให้เกศสุรางค์ตื่นเต้น นอกจากนั้นขุนศรีวิสารวาจายังพาการะเกดไปหา ตองกีมาร์(ซูซี่ สุษิรา) ที่บ้านอีกด้วย ซึ่งครั้งนี้เกศสุรางค์ได้ยังเห็นความเป็นมาในการทำขนมไทยด้วยตาตัวเองเพราะตองกีมาร์กำลังทำขนมและมีส่วนร่วมในการคิดชื่อขนมด้วย แต่เมื่อคอนสแตนติน(หลุยส์ สก๊อตต์) ฟอลคอนเห็นขุนศรีวิสารวาจามาก็เกิดอาการหึงหวง เพราะคิดว่าตองกีมาร์ยังมีใจให้ขุนศรีวิสารวาจาอยู่ เมื่อใกล้ถึงวันที่ขุนศรีวิสารวาจาต้องเดินทาง เกศสุรางค์ได้ทำเสื้อกั๊กมอบให้กับขุนศรีวิสารวาจา เพราะรู้ว่าที่ฝรั่งเศสหนาวมาก ส่วนขุนศรีวิสารวาจาเมื่อต้องไกลห่างจากการะเกด จึงขอของแทนใจจากกา
หลังจากขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป ธนวรรธน์) เดินทางไปฝรั่งเศสพร้อมคณะฑูต เกศสุรางค์ก็เป็นแม่สื่อให้ขุนเรืองอภัยภักดี (ปั้นจั่น ปรมะ) และ จันทร์วาด (ปราง กัญญ์ณรัณ) ได้ลงเอยกัน แม้ จันทร์วาดจะมีใจให้ขุนเรืองแต่ คุณหญิงนิ่ม (แพร รัชนี) ก็มิยอมรับและจะให้จันทร์วาดแต่งงานกับบุตรชายขุนนางที่มีทรัพย์สมบัติมหาศาล เมื่อเกศสุรางค์(เบลล่า ราณี) รู้เข้าก็ออกอุบายให้จันทร์วาดแกล้งป่วยตรอมใจ จนคุณหญิงนิ่มทุกข์ใจมากและให้ขุนเรืองเดินหน้านำข้าวของแต่งเรือนที่มีราคาขนมาให้คุณหญิงนิ่ม จนทำให้คุณหญิงนิ่มเริ่มใจอ่อนสองปีผ่านไป ขุนศรีวิสารวาจาได้เดินทางกลับถึงอยุธยา ทำให้ทุกคนในเรือนและเกศสุรางค์ดีใจเป็นอย่างมาก ออกญาโหราธิบดี (หนิง นิรุตติ์) ก็ได้เล่าให้ขุนศรีวิสารวาจาฟังว่าที่อยุธยาเกิดกบฎมักกะสันของพวกแขก ค
เกศสุรางค์(เบลล่า ราณี)ชวนขุนศรีวิสารวาจา(โป๊ป ธนวรรธน์) ไปเยี่ยม จันทร์วาด((ปราง กัญญ์ณรัณ) ทำให้ขุนศรีวิสารวาจาได้รู้ความจริงว่าจันทร์วาดออกเรือนและกำลังตั้งท้องกับ ขุนเรืองอภัยภักดี(ปั้นจั่น ปรมะ)ที่ตอนนี้ได้อวยยศเป็น หลวงเรืองณรงค์เดชา ต่อมาขุนศรีวิสารวาจาก็ได้อวยยศเป็น พระศรีวิสารสุนทร ขณะที่ พระวิสุทธสุนทร ได้รั้งตำแหน่ง โกษาธิบดี และ ฟอลคอน ก็ได้อวยยศเป็น เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ ด้านหลวงสรศักดิ์(ก็อต จิรายุ)ยังคงพยายามขัดขวางไม่ให้ฟอลคอนเกณฑ์คนไปสร้างป้อม ฟอลคอนเมามายจึงไปนอนกับ คลาร่า เด็กในบ้านที่ตองกีมาร์(ซูซี่ สุษิรา)เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ ทำให้ตองกีมาร์โกรธมากและตัดสินใจหนีกลับอยุธยาไป เกศสุรางค์ได้ทราบข่าวของตองกีมาร์และฟอลคอน จึงเข้าไปช่วยเจรจาจนทำให้ตองกีมาร์กลับมาหาฟอลคอนที่
ศรีปราชญ์ (ดรีม-ณฐพล) บุตรชายอีกคนหนึ่งของ ออกญาโหราธิบดี (หนิง-นิรุตติ์) มาเข้าฝันออกญาโหราธิบดีโดยมอบแหวนวงหนึ่งกับโคลงบทหนึ่ง เพื่อกล่าวคำลาต่อออกญาโหราธิบดี หลังจากนั้นออกญาโหราธิบดีก็ล้มเจ็บจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ออกญาโหราธิบดีจึงสั่งเสียให้ พระศรีวิสารสุนทร (โป๊ป-ธนวรรธน์) เป็นผู้ดูแลบ้านเรือนและคุณหญิงจำปา (เหมียว-ชไมพร)ด้าน ขุนหลวงนารายณ์ (ปราปต์-ปราปต์ปฎล) ก็ล้มป่วยเจ็บหนักมากขึ้น เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ (หลุยส์-สก็อตส์) ได้คิดทำการกบฎเพื่อให้ พระปีย์ (เก่ง-ธชย) ได้ขึ้นครองราชย์แทนขุนหลวงนารายณ์ และทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของการค้าฝรั่งเศส พระเพทราชา (บิ๊ก-ศรุต) รู้ดังนั้นจึงวางแผนกำจัดเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์โดยให้ ออกพระวิสุทธสุนทร (เก่ง-ชาติชาย) หลอกให้เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์เข้าเฝ้าขุนหลวงแ